วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในยุคปัจจุบัน

1.ปราสาทหินนครวัด ประเทศกัมพูชา สร้างโดยพระราชาธิราชพ.ศ.1690 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดเป็นสถาปัตยกรรมสร้างด้วยหินศิลาแลงและมีช่างแกะหินเป็นภาพพุทธประวัติบ้าง ภาพสงครามบ้าง
2.ทัชมาฮาล ในประเทศอินเดีย เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพระเจ้าซาห์เยฮัน แห่งเมืองอัคระ สร้างเป็นสุสานฝังศพของมเหสีที่พระองค์รักมากที่สุด ทัชมาฮาลสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 23 ปี
3.พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สร้างนานถึง 30 ปี ห้องทุกห้องตกแต่งประดับประดาหรูหราโอ่อ่ามาก แต่ประหลาดมากคือไม่มีห้องน้ำ
4.ตึกเอ็มไพร์สเตต เกาะแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกาเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีไม่มีสนิม คงทนถาวรนาน 6,000 ปีไม่มีถล่ม
5.เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ เขื่อนกั้นแม่น้ำโคโลราโดอยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้อยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้
6.สะพานโกลเดนเกต ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกาเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก เฉพาะช่วงตอนกลางยาวถึง 4,200 ฟุต กว้าง 90 ฟุต ความยาวทั้งหมดของสะพานเกือบ 7 กิโลเมตร สร้างเมื่อปี 2476 เสร็จปี 2480 เวลากลางคืนเปิดไฟที่สะพานจะสวยมาก

7.เรือโดยสารควีนแมร์รี่ เป็นเรือเดินสมุทรขนาดมหึมาใหญ่โตที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อรับผู้โดยสารข้ามมหาสมุทร เรือมีน้ำหนัก 80,773 ตัน ยาว 1,004 ฟุต สูง 180 ฟุต ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า โรงพยาบาล ฯลฯ แต่ตอนนี้เรือไม่ได้แล่นรับผู้โดยสารแล้ว เพราะมีเศรษฐีอเมริกันซื้อไปสร้างเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย
สำหรับสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ด สมัยกลาง (ศตวรรษที่ 1-14) ได้แก่ 1.สนามกีฬากรุงโรม อิตาลี 2.หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย อียิปต์ 3.กำแพงเมืองจีน 4.กองหินสโตนเฮนช์ อังกฤษ 5.หอเอนปิซ่า อิตาลี 6.เจดีย์กระเบื้องเคลือบนากิง จีน และ 7.โบสถ์เซนต์โซเฟีย ตุรกีนอกจากนี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ในยุคโบราณอีกด้วย ได้แก่ 1.เทวรูปเทพเจ้าเซอุส 2.มหาวิหารเดียนา 3.สวนลอยบาบิโลน 4.หอประภาคารฟาโรส 5.เทวรูปโคโลสซูส 6.สุสานมุสโซเลียม 7.พีระมิดแห่งอียิปต์

เขียนโดย NanGuri

10 อันดับสัตว์ที่นิยม

10 อันดับสัตว์ที่นิยม10 อันดับสัตว์เลี้ยงเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก.....อันดับ 10 เจ้าวัวแองกัส และเจ้าแกะแลร์รีได้รับทรัพย์สมบัติจากพระมารดาของพระราชินีนาถแห่งอังกฤษก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ โดยทรงมอบเงินจำนวน 6 ล้านดอลลาร์ให้กับฝูงวัวอาเบอร์ดีน 150 ตัว และฝูงแกะเชฟวิออต 200 ตัว ของฟาร์มแคสเซิล ออฟเมย์ ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วพวกมันแต่ละตัวจะได้รับพระราชทานเป็นเงินจำนวนตัวละเกือบ 16,000 ดอลลาร์ทีเดียว บางทีพวกมันอาจจะเป็นฝูงสัตว์ที่ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษในตอนนั้นก็เป็นได้ อันดับ 9 ท็อปแคท และมาทิลดาเจ้าเหมียวคู่รักของบรรณารักษ์ในอาร์เบอร์ดีนที่เกษียณแล้ว ซึ่งเสียชีวิตในตุลาคมปี 2004 โดยทิ้งเงินไว้ให้น้องแมว 2 ตัวนี้ตัวละ 20,000 ดอลลาร์ ทั้งๆ ที่ ตอนเธอมีชีวิตอยู่ค่อนข้างตระหนี่ถี่ถ้วนในการใช้เงิน ไม่ว่าจะเดินทางไปทุกที่ด้วยรถเมล์ แต่เธอกลับเห็นว่าแมวทั้ง 2 ของเธอมีค่าเพียงพอสำหรับเงินจำนวนนั้นอับดับ 8 เต่าซิลเวอร์สโตนไม่เพียงแต่น้องหมา หรือน้องแมวที่จะได้รับมรดก แต่เจ้าเต่าซิลเวอร์สโตน วัย 50 ปี 1 ในเต่าสัตว์เลี้ยงแสนรักอีก 6 ตัวของคริสตินา ฟอยล์ก็ได้รับมรดกกับเขาด้วย โดยเธอทิ้งเงิน 200,000 ดอลลาร์ไว้ให้กับเต่าทั้ง 6 จนกระทั่งมี 1 ตัวตายไป จึงเหลือเต่าเพียง 5 ตัวเท่านั้น ส่วน เจ้าซิลเวอร์สโตนนี้อยู่ในความดูแลของอดีตแม่บ้านของฟอยล์ มัวรีน ฮาร์ดิง อันดับ 7 เจ้าเหมียวพอร์กี้ ไพรด์ จอย และโรนัลด์แมวน้อยๆ ของราชินีร้านหนังสือ คริสตินา ฟอยล์ เจ้าของร้านหนังสือฟอยล์ในแชร์ริง ครอส โรด ซึ่งหมดอายุขัยในปี 1999 ทิ้งทรัพย์สิน 118 ล้านดอลลาร์ รวมถึงพินัยกรรมไว้สำหรับแมวเหมียวของเธอด้วย โดยเจ้าเหมียวแต่ละตัวจะได้เงินตัวละ 35,000 ดอลลาร์ อันดับ 6 เจ้าเหมียวทิงเกอร์สัตว์เลี้ยงเพื่อนสนิทของแม่ม่ายมาร์กาเร็ต เลน ซึ่งเสียชีวิตในปี 2003 ด้วยวัย 89 ปี โดยเจ้าทิงเกอร์ได้รับมรดกเป็นบ้าน 3 ห้องนอนในมิดเดิลเซ็กส์ และเงินทุนอีก 200,000 ดอลลาร์ เพื่อให้ผู้พิทักษ์มรดกคอยส่งน้ำ อาหารและนม ให้กับเจ้าเหมียว ผู้โชคดีตัวนี้อันดับ 5 แจสเปอร์สุนัขพันธุ์ผสมลาบราดอร์-เบอร์แมน จากเด็ก (หมา) บ้านแตก ใช้ชีวิตในสถานสงเคราะห์สุนัขแบตเทอร์ซี แล้วจึงได้รับความเมตตาจากทายาทโรงเบียร์ ไดอานา มายเบิร์ก ซึ่งเสียชีวิตในปี 1995 โดยเธอทิ้งเงินทุนไว้ให้เจ้าแจสเปอร์ และสุนัขอีกตัวหนึ่ง ตัวละ 50,000 ดอลลาร์ และเมื่อสุนัขอีกตัวตาย เจ้าแจสเปอร์จึงได้รับมรดกสืบทอดต่อมา และลูกเขยของมายเบิร์กก็นำเงินทุนดังกล่าวเข้าตลาดหุ้น ทำให้ทรัพย์สินของเจ้าแจสเปอร์พุ่งขึ้นเป็น 3 เท่าทีเดียว อันดับ 4 ทีนา และเคตสุนัขพันธุ์คอลลี ครอสเซส สัตว์เลี้ยงของนอรา ฮาร์ดเวลล์ ซึ่งเสียชีวิตก่อนวันเกิดครบ 90 ปีของเธอ 1 วัน ด้วยความกังวลว่าสุนัขของเธอทั้ง 2 ตัวจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างเปี่ยมสุขในช่วงเวลาที่เหลือ เธอจึงเขียนพินัยกรรมยกบ้าน และที่ดิน5 เอเคอร์ในพีซดาวน์ เซนต์ จอห์น พร้อมเงิน 900,000 ดอลลาร์ไว้ใช้จ่ายสำหรับพวกมันในแต่ละวันด้วยอันดับ 3 เจ้าทรอบเบิลมอลติซเทอร์เรียแสนรักที่เพิ่งได้มรดก 12 ล้านดอลลาร์มาสดๆ ร้อนๆ จากลีโอนา เฮล์มสลีย์ ฉายาราชินีใจร้าย หลังจากเธอตัดหลาน 2 คนออกจากกองมรดก แล้วแบ่งปันเงินให้กับทั้งโชเฟอร์คนสนิท การกุศล และเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักตัวนี้ซึ่งตามคำบอกเล่าของสาวใช้ประจำบ้านของเฮล์มสลีย์ระบุว่า เจ้าทรอบเบิลกินอาหารเหมือนกับคน และยังต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โดยที่คนรับใช้ต้องคอยป้อนข้าวเข้าปากเท่านั้น ไม่เช่นนั้นมันจะไม่กิน อันดับ2 คาลูลิงชิมแปนซีสุดหวงของแพตทริเซีย โอนีล ภรรยาของแฟรงก์ โอนีล อดีตนักว่ายน้ำทีมชาติออสเตรเลีย ที่ได้รับมรดกมาถึง 80 ล้านดอลลาร์ หลังจากทั้งคู่ผูกพันกันมานับตั้งแต่พบกันครั้งแรกนอกเขตทำสงครามในอาร์เจนตินา ขณะที่เจ้าคาลูไม่เคยเป็นมิตรกับมิสเตอร์โอนีล คู่ครองของแพตทริเซียเลยและ อันดับ 1 เจ้ากุนเธอร์ที่ 4สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด สัตว์เลี้ยงของนักร้องสาวสุดฮอต มาดอนนา ซึ่งมีทรัพย์สินทั้งหมด 180 ล้านดอลลาร์โดยเจ้ากุนเธอร์ที่ 4 ได้รับมรดกสืบทอดมาจากพ่อของมัน คือกุนเธอร์ที่ 3 ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของเคาต์เทสคาร์ลอตตาลีเบนสไตน์แห่งเยอรมัน ที่ทิ้งมรดก 86 ล้านดอลลาร์หลังเธอสิ้นชีวิตในปี 1992ไม่เพียงแค่ทรัพย์สินที่เป็นเงินทองเท่านั้น แต่เจ้ากุนเธอร์ที่ 4 ยังมีที่ดินในบาร์ฮามาส อิตาลี และเยอรมนีด้วย และที่น่าอิจฉายิ่งไปกว่านั้น คือคฤหาสน์ของมันยังมีสระว่ายน้ำ กับสาวในชุดบิกีนีรายล้อมด้วย

เขียนโดย NanGuri

10 ขนมอันตราย

10 ขนมอันตราย---10 ขนมอันตราย ---ตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจ ของราชพฤกษ์โพล คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน ในพื้นที่17 เขตของกรุงเทพมหานคร พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย ขณะเดียวกันก็ยังพบสารอันตรายอื่นๆ โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้ 10 อันดับขนมขบเคี้ยวประเภทข้าว แป้ง ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้ 1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง 2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง 3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่ 4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ 5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์ รสหัวหอมทรงเครื่อง 6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก 7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ 8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา 9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา 10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ

เขียนโดย NanGuri

Lincoln High School

Lincoln High SchoolKiwi Centre(Thailand) ร่วมกับ Lincoln High School , New Zealand ขอเชิญน้องๆนักเรียนชาย-หญิง อายุ 13-18 ปี เข้าร่วมโปรแกรม STUDY PROGRAMME ระยะเวลา 4 สัปดาห์ รายละเอียดดังนี้โรงเรียน : Lincoln High Schoolเมือง : Lincoln, Christchurch, South Island, New Zealandระยะเวลา : 4 weeks(15 March 09 – 12 April 09) เดินทางโดยสายการบิน Singapore Airline (จอทีวีส่วน ตัวทุกที่นั่ง)ลักษณะโปรแกรม : เรียนวิชาภาษาอังกฤษ(ESOL) และวิชาพื้นฐานอื่นๆ แยกตามระดับอายุ ร่วมกับนักเรียนชาวนิวซีแลนด์ในวันจันทร์ถึงศุกร์ พร้อมกิจกรรมในช่วง บ่าย(บางวัน) และโปรแกรมทัศนศึกษาในช่วงวันหยุดHighlight : 3 Days Trip - Queenstown, Viewing Bungy Jumping, Luge and Gondola, Puzzling WorldDay Trip - Christchurch City Tourค่าลงทะเบียน : 149,000 Bahtปฐมนิเทศ : Sun 01 March 2009รายละเอียดค่าลงทะเบียนอัตราดังกล่าวรวมค่าตัวเครื่องบินไป-กลับชั้นประหยัด, ค่าลงทะเบียนเรียน พร้อมกิจกรรมต่างๆ, ค่าที่พักกับครอบครัวชาวนิวซีแลนด์ 1-2 ท่าน/ครอบครัวพร้อมอาหาร 3 มื้อ/วัน, รถรับ-ส่งสนามบิน, รถรับ-ส่ง บ้าน-โรงเรียนในวันจันทร์ถึงศุกร์ ภาษีสนามบินกรุงเทพฯ และนิวซีแลนด์, ค่าธรรมเนียมวีซ่า, ประกันอุบัติเหตุ และสุขภาพตลอดการเดินทาง พร้อม Group Leader ที่มีประสบการณ์ราคาดังกล่าวไม่รวมค่าใช้จ่ายส่วนตัวอื่นๆรายละเอียดโปรแกรมเรียนวิชาภาษาอังกฤษ เรียนวิชาพื้นฐานอื่นๆ ร่วมกับนักเรียนชาวนิวซีแลนด์ ในช่วงวันจันทร์ ถึง ศุกร์ พร้อมกิจกรรมในช่วงบ่าย(บางวัน) และโปรแกรมทัศนศึกษาในช่วงวันหยุดHIGHLIGHT โปรแกรมท่องเที่ยว / กิจกรรม3 Days Trip - Queenstown, Viewing Bungy Jumping, Luge and Gondola, Puzzling WorldDay Trip - Christchurch City Tour, Sheep Farm, Horse riding, Laser Strike และอื่นๆ อีกมากมายหลักฐานการสมัครเรียน / ยื่นขอวีซ่ารูปถ่ายของนักเรียนขนาด 2 นิ้ว จำนวน 2 รูปสำเนาสูติบัตร หรือบัตรประชาชนของนักเรียน พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ชุดหนังสือเดินทางจดหมายรับรองจากโรงเรียนเป็นภาษาอังกฤษ 1 ชุดสำเนาทะเบียนบ้านของนักเรียน และบิดา มารดา พร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ชุดหนังสือรับรองการทำงานของบิดา มารดา หรือสำเนาหนังสือรับรองนิติบุคคลกรณีประกอบธุรกิจส่วนตัวจดหมายรับรองฐานะการเงินจากธนาคาร หรือ สำเนาบัญชีเงินฝากย้อนหลัง 6 เดือนของบิดา หรือมารดาพร้อมเซ็นรับรองสำเนาถูกต้อง 1 ชุดจดหมายยินยอมให้เดินทางจากบิดามารดา/ผู้ปกครอง (ขอรับได้ที่สำนักงาน)


เขียนโดย NanGuri

sommer สิงคโปร์

sommer สิงคโปร์
sommer สิงคโปร์คุ้มสุดC 72,000 บาทค่าเรียนภาษาอังกฤษ+จีน หรืออังกฤษอย่างเดียวเต็มวัน ระยะเวลา 1 เดือน ค่าที่พัก 1เดือน ห้องเดี่ยว ค่าซักรีด ค่ารับสนามบินราคาข้างต้นยังไม่รวมตั๋วเครื่องบิน จองตั๋วราคาถูกของ Air Asia, Tiger Air, Jet star ในเว็บไซด์สายการบินได้เลย


เขียนโย NanGuri

เเปลก OoO เเต่จิงปลารักษาโรค !!!!

เเปลก OoO เเต่จิงปลารักษาโรค !!!!มัจฉาบำบัด หรือ มัตสยาบำบัด(อังกฤษ: Fish spa) เป็นรูปแบบหนึ่งของสปาด้วยวิธีการวารีบำบัด โดยการใช้ปลาขนาดเล็ก ในวงศ์ปลาตะเพียน (Cyprinidae) จำพวกปลาเลียหิน (Garra) หรือ ปลาเล็บมือนาง (Crossocheilus) ให้ตอดตามผิวหนังของผู้ที่รับการบำบัด เพื่อขจัดผิวหนังชั้นนอกที่เป็นเซลล์ที่ตายแล้วออก เพื่อให้ร่างกายสร้างผิวหนังใหม่ขึ้นทดแทน เพื่อเป็นการป้องกันและรักษาโรคผิวหนังบางชนิดได้ด้วยโดยมัตสยาบำบัดนั้นเริ่มต้นขึ้นแรกที่ประเทศตุรกี โดยปลาพื้นเมืองของตุรกี คือ Garra rufa ซึ่งเป็นปลาพื้นเมืองของตุรกี ที่มีความเหมาะสมในการดูดผิวหนังมนุษย์โดยที่ไม่มีผลข้างเคียง ต่อมารูปแบบของสปาแบบนี้ได้เริ่มแพร่หลายไปในหลายประเทศ เช่น ญี่ปุ่น, เกาหลีใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วยโดยการทำธุรกิจมัตสยาบำบัดนั้น คล้ายกับการเลี้ยงปลาในตู้เลี้ยง มีบ่อบำบัดน้ำและมีระบบน้ำวนเพื่อความสะอาดของน้ำด้วย ซึ่งปลาที่ใช้ได้นอกจาก Garra rufa แล้วยังสามารถใช้ปลาชนิดอื่นในสกุลเดียวกันชนิดอื่นได้ด้วย เช่น Garra sp. รวมถึงปลาในวงศ์อื่นได้ด้วย เช่น ปลาทอง หรือปลาหมอสีขนาดเล็กมัตสยาบำบัดนั้น นับว่าได้ผลอย่างมาก จนในภาษาอังกฤษเรียกปลาที่ใช้ในการบำบัดว่า "Doctor fish"


เขียนโดย NanGuri

อาคารเบิร์จดูไบ เบิร์จดูไบ

อาคารเบิร์จดูไบ เบิร์จดูไบอาคารเบิร์จดูไบ เบิร์จดูไบ (ภาษาอาหรับ: برج دبي , Burj Dubai - หอคอยดูไบ) เป็นตึกระฟ้าสูงยวดยิ่ง ที่อยู่ในระหว่างการก่อสร้างในย่านกลางเมืองดูไบ และเมื่อก่อสร้างแล้วเสร็จก็จะถูกจัดเป็นอาคารระฟ้าที่สูงที่สุดในโลก กำหนดให้เข้าใช้งานได้ในต้นปี พ.ศ. 2552 ณ โดยจะสร้างให้มีความสูงประมาณ 818 เมตร ในดูไบยังมีโครงการก่อสร้างตึกในชื่อว่า อัลเบิร์จ ที่กำลังอยู่ในระหว่างการออกแบบและวางแผน โดยความสูงยังคงถูกเก็บเป็นความลับเช่นกัน โดยประมาณการว่าอาจจะสูงอย่างน้อย 800 เมตรการตกแต่งภายในจะบ่างออกเป็นโรงแรมอาร์มานี 37 ชั้นล่าง โดยชั้น 45 ถึง 108 จะเป็น อพาร์ตเมนต์ โดยที่เหลือจะเป็นออฟฟิศสำนักงาน และชั้นที่ 123 และ 124 จะเป็นจุดชมวิวของตึก ส่วนบนของตึกจะเป็นเสาอากาศสื่อสาร นอกจากนี้ชั้น 78 จะมีสระว่ายน้ำกลางแจ้งขนาดใหญ่ และตึกนี้จะติดตั้งลิฟต์ที่เร็วที่สุดในโลก ที่ความเร็ว 18 ม/วินาที (65 กิโลเมตร/ชั่วโมง, 40 ไมล์/ชั่วโมง)เบิร์จอัลอาหรับ เบิร์จอัลอาหรับ (ภาษาอาหรับ: برج العرب , Burj al-Arab) เป็นโรงแรมหรูหราและเป็นโรงแรมที่สูงที่สุดในโลก โดยมีความสูง 321 เมตร (1,053 ฟุต) โดยตั้งอยู่บริเวณชายฝั่งทะเลบริเวณอ่าวเปอร์เซีย โดยเชื่อมต่อกับฝั่งผ่านทางสะพาน เบิร์จอัลอาหรับเป็นเจ้าของโดย จูเมราฮ์ การก่อสร้างเริ่มต้นในปี พ.ศ. 2537 แล้วเสร็จและเริ่มเปิดใช้งานครั้งแรกเมื่อ 1 ธันวาคม พ.ศ. 2542 โดยตัวตึกออกแบบมีลักษณะคล้ายเรือใบ dhow ซึ่งเป็นยานพาหนะชนิดหนึ่งของชาวอาหรับ ส่วนห้องในโรงแรมเบิร์จอัลอาหรับมีลักษณะเป็นห้องสวีตคู่ 202 ห้อง โดยห้องที่เล็กสุดมีขนาด 169 ตารางเมตร (1,819 ตารางฟุต) และห้องใหญ่สุดมีขนาด 780 ตารางเมตร (8,396 ตารางฟุต) และได้ชื่อว่าเป็นหนึ่งในโรงแรมที่แพงที่สุดในโลก โดยราคาค่าที่พักอยู่เริ่มต้นที่ $1,000 -$15,000 ต่อคืน และห้องที่แพงสุดจะอยู่ที่ราคา $28,000 ต่อคืน

เขียนโดย Nan Guri