วันจันทร์ที่ 1 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2553

7 สิ่งมหัศจรรย์ของโลก ในยุคปัจจุบัน

1.ปราสาทหินนครวัด ประเทศกัมพูชา สร้างโดยพระราชาธิราชพ.ศ.1690 เพื่อเฉลิมพระเกียรติพระเจ้าสุริยวรมันที่ 2 นครวัดเป็นสถาปัตยกรรมสร้างด้วยหินศิลาแลงและมีช่างแกะหินเป็นภาพพุทธประวัติบ้าง ภาพสงครามบ้าง
2.ทัชมาฮาล ในประเทศอินเดีย เป็นอนุสาวรีย์แห่งความรักที่ยิ่งใหญ่ซึ่งพระเจ้าซาห์เยฮัน แห่งเมืองอัคระ สร้างเป็นสุสานฝังศพของมเหสีที่พระองค์รักมากที่สุด ทัชมาฮาลสร้างด้วยหินอ่อนทั้งหลัง ใช้เวลาก่อสร้างนานถึง 23 ปี
3.พระราชวังแวร์ซายส์ ประเทศฝรั่งเศส สร้างโดยพระเจ้าหลุยส์ที่ 14 สร้างนานถึง 30 ปี ห้องทุกห้องตกแต่งประดับประดาหรูหราโอ่อ่ามาก แต่ประหลาดมากคือไม่มีห้องน้ำ
4.ตึกเอ็มไพร์สเตต เกาะแมนฮัตตัน สหรัฐอเมริกาเคยเป็นตึกที่สูงที่สุดในโลก สร้างด้วยคอนกรีตเสริมเหล็กอย่างดีไม่มีสนิม คงทนถาวรนาน 6,000 ปีไม่มีถล่ม
5.เขื่อนยักษ์ฮูเวอร์ เขื่อนกั้นแม่น้ำโคโลราโดอยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้อยู่ระหว่างรัฐเนวาดากับอริโซน่า สหรัฐอเมริกา สร้างเมื่อปีพ.ศ.2472 เป็นเขื่อนแรกที่มนุษย์สร้างและเอาชนะธรรมชาติอันร้ายแรงของน้ำท่วมและกักเก็บน้ำให้เป็นทะเลสาบได้
6.สะพานโกลเดนเกต ซานฟรานซิสโก สหรัฐอเมริกาเป็นสะพานแขวนที่ยาวที่สุดในโลก เฉพาะช่วงตอนกลางยาวถึง 4,200 ฟุต กว้าง 90 ฟุต ความยาวทั้งหมดของสะพานเกือบ 7 กิโลเมตร สร้างเมื่อปี 2476 เสร็จปี 2480 เวลากลางคืนเปิดไฟที่สะพานจะสวยมาก

7.เรือโดยสารควีนแมร์รี่ เป็นเรือเดินสมุทรขนาดมหึมาใหญ่โตที่สุดในโลกเท่าที่มนุษย์สร้างขึ้นเพื่อรับผู้โดยสารข้ามมหาสมุทร เรือมีน้ำหนัก 80,773 ตัน ยาว 1,004 ฟุต สูง 180 ฟุต ภายในเรือมีสิ่งอำนวยความสะดวก ร้านค้า โรงพยาบาล ฯลฯ แต่ตอนนี้เรือไม่ได้แล่นรับผู้โดยสารแล้ว เพราะมีเศรษฐีอเมริกันซื้อไปสร้างเป็นโรงแรมและพิพิธภัณฑ์ลอยน้ำที่ลองบีช รัฐแคลิฟอร์เนีย
สำหรับสิ่งมหัศจรรย์ทั้งเจ็ด สมัยกลาง (ศตวรรษที่ 1-14) ได้แก่ 1.สนามกีฬากรุงโรม อิตาลี 2.หลุมฝังศพแห่งอเล็กซานเดรีย อียิปต์ 3.กำแพงเมืองจีน 4.กองหินสโตนเฮนช์ อังกฤษ 5.หอเอนปิซ่า อิตาลี 6.เจดีย์กระเบื้องเคลือบนากิง จีน และ 7.โบสถ์เซนต์โซเฟีย ตุรกีนอกจากนี้ยังมีสิ่งมหัศจรรย์ทั้ง 7 ในยุคโบราณอีกด้วย ได้แก่ 1.เทวรูปเทพเจ้าเซอุส 2.มหาวิหารเดียนา 3.สวนลอยบาบิโลน 4.หอประภาคารฟาโรส 5.เทวรูปโคโลสซูส 6.สุสานมุสโซเลียม 7.พีระมิดแห่งอียิปต์

เขียนโดย NanGuri

10 อันดับสัตว์ที่นิยม

10 อันดับสัตว์ที่นิยม10 อันดับสัตว์เลี้ยงเศรษฐีที่รวยที่สุดในโลก.....อันดับ 10 เจ้าวัวแองกัส และเจ้าแกะแลร์รีได้รับทรัพย์สมบัติจากพระมารดาของพระราชินีนาถแห่งอังกฤษก่อนที่พระองค์จะสิ้นพระชนม์ โดยทรงมอบเงินจำนวน 6 ล้านดอลลาร์ให้กับฝูงวัวอาเบอร์ดีน 150 ตัว และฝูงแกะเชฟวิออต 200 ตัว ของฟาร์มแคสเซิล ออฟเมย์ ซึ่งเมื่อคำนวณแล้วพวกมันแต่ละตัวจะได้รับพระราชทานเป็นเงินจำนวนตัวละเกือบ 16,000 ดอลลาร์ทีเดียว บางทีพวกมันอาจจะเป็นฝูงสัตว์ที่ร่ำรวยที่สุดในอังกฤษในตอนนั้นก็เป็นได้ อันดับ 9 ท็อปแคท และมาทิลดาเจ้าเหมียวคู่รักของบรรณารักษ์ในอาร์เบอร์ดีนที่เกษียณแล้ว ซึ่งเสียชีวิตในตุลาคมปี 2004 โดยทิ้งเงินไว้ให้น้องแมว 2 ตัวนี้ตัวละ 20,000 ดอลลาร์ ทั้งๆ ที่ ตอนเธอมีชีวิตอยู่ค่อนข้างตระหนี่ถี่ถ้วนในการใช้เงิน ไม่ว่าจะเดินทางไปทุกที่ด้วยรถเมล์ แต่เธอกลับเห็นว่าแมวทั้ง 2 ของเธอมีค่าเพียงพอสำหรับเงินจำนวนนั้นอับดับ 8 เต่าซิลเวอร์สโตนไม่เพียงแต่น้องหมา หรือน้องแมวที่จะได้รับมรดก แต่เจ้าเต่าซิลเวอร์สโตน วัย 50 ปี 1 ในเต่าสัตว์เลี้ยงแสนรักอีก 6 ตัวของคริสตินา ฟอยล์ก็ได้รับมรดกกับเขาด้วย โดยเธอทิ้งเงิน 200,000 ดอลลาร์ไว้ให้กับเต่าทั้ง 6 จนกระทั่งมี 1 ตัวตายไป จึงเหลือเต่าเพียง 5 ตัวเท่านั้น ส่วน เจ้าซิลเวอร์สโตนนี้อยู่ในความดูแลของอดีตแม่บ้านของฟอยล์ มัวรีน ฮาร์ดิง อันดับ 7 เจ้าเหมียวพอร์กี้ ไพรด์ จอย และโรนัลด์แมวน้อยๆ ของราชินีร้านหนังสือ คริสตินา ฟอยล์ เจ้าของร้านหนังสือฟอยล์ในแชร์ริง ครอส โรด ซึ่งหมดอายุขัยในปี 1999 ทิ้งทรัพย์สิน 118 ล้านดอลลาร์ รวมถึงพินัยกรรมไว้สำหรับแมวเหมียวของเธอด้วย โดยเจ้าเหมียวแต่ละตัวจะได้เงินตัวละ 35,000 ดอลลาร์ อันดับ 6 เจ้าเหมียวทิงเกอร์สัตว์เลี้ยงเพื่อนสนิทของแม่ม่ายมาร์กาเร็ต เลน ซึ่งเสียชีวิตในปี 2003 ด้วยวัย 89 ปี โดยเจ้าทิงเกอร์ได้รับมรดกเป็นบ้าน 3 ห้องนอนในมิดเดิลเซ็กส์ และเงินทุนอีก 200,000 ดอลลาร์ เพื่อให้ผู้พิทักษ์มรดกคอยส่งน้ำ อาหารและนม ให้กับเจ้าเหมียว ผู้โชคดีตัวนี้อันดับ 5 แจสเปอร์สุนัขพันธุ์ผสมลาบราดอร์-เบอร์แมน จากเด็ก (หมา) บ้านแตก ใช้ชีวิตในสถานสงเคราะห์สุนัขแบตเทอร์ซี แล้วจึงได้รับความเมตตาจากทายาทโรงเบียร์ ไดอานา มายเบิร์ก ซึ่งเสียชีวิตในปี 1995 โดยเธอทิ้งเงินทุนไว้ให้เจ้าแจสเปอร์ และสุนัขอีกตัวหนึ่ง ตัวละ 50,000 ดอลลาร์ และเมื่อสุนัขอีกตัวตาย เจ้าแจสเปอร์จึงได้รับมรดกสืบทอดต่อมา และลูกเขยของมายเบิร์กก็นำเงินทุนดังกล่าวเข้าตลาดหุ้น ทำให้ทรัพย์สินของเจ้าแจสเปอร์พุ่งขึ้นเป็น 3 เท่าทีเดียว อันดับ 4 ทีนา และเคตสุนัขพันธุ์คอลลี ครอสเซส สัตว์เลี้ยงของนอรา ฮาร์ดเวลล์ ซึ่งเสียชีวิตก่อนวันเกิดครบ 90 ปีของเธอ 1 วัน ด้วยความกังวลว่าสุนัขของเธอทั้ง 2 ตัวจะไม่ได้ใช้ชีวิตอย่างเปี่ยมสุขในช่วงเวลาที่เหลือ เธอจึงเขียนพินัยกรรมยกบ้าน และที่ดิน5 เอเคอร์ในพีซดาวน์ เซนต์ จอห์น พร้อมเงิน 900,000 ดอลลาร์ไว้ใช้จ่ายสำหรับพวกมันในแต่ละวันด้วยอันดับ 3 เจ้าทรอบเบิลมอลติซเทอร์เรียแสนรักที่เพิ่งได้มรดก 12 ล้านดอลลาร์มาสดๆ ร้อนๆ จากลีโอนา เฮล์มสลีย์ ฉายาราชินีใจร้าย หลังจากเธอตัดหลาน 2 คนออกจากกองมรดก แล้วแบ่งปันเงินให้กับทั้งโชเฟอร์คนสนิท การกุศล และเจ้าสัตว์เลี้ยงแสนรักตัวนี้ซึ่งตามคำบอกเล่าของสาวใช้ประจำบ้านของเฮล์มสลีย์ระบุว่า เจ้าทรอบเบิลกินอาหารเหมือนกับคน และยังต้องหั่นเป็นชิ้นเล็กๆ โดยที่คนรับใช้ต้องคอยป้อนข้าวเข้าปากเท่านั้น ไม่เช่นนั้นมันจะไม่กิน อันดับ2 คาลูลิงชิมแปนซีสุดหวงของแพตทริเซีย โอนีล ภรรยาของแฟรงก์ โอนีล อดีตนักว่ายน้ำทีมชาติออสเตรเลีย ที่ได้รับมรดกมาถึง 80 ล้านดอลลาร์ หลังจากทั้งคู่ผูกพันกันมานับตั้งแต่พบกันครั้งแรกนอกเขตทำสงครามในอาร์เจนตินา ขณะที่เจ้าคาลูไม่เคยเป็นมิตรกับมิสเตอร์โอนีล คู่ครองของแพตทริเซียเลยและ อันดับ 1 เจ้ากุนเธอร์ที่ 4สุนัขพันธุ์เยอรมัน เชพเพิร์ด สัตว์เลี้ยงของนักร้องสาวสุดฮอต มาดอนนา ซึ่งมีทรัพย์สินทั้งหมด 180 ล้านดอลลาร์โดยเจ้ากุนเธอร์ที่ 4 ได้รับมรดกสืบทอดมาจากพ่อของมัน คือกุนเธอร์ที่ 3 ซึ่งเป็นสัตว์เลี้ยงของเคาต์เทสคาร์ลอตตาลีเบนสไตน์แห่งเยอรมัน ที่ทิ้งมรดก 86 ล้านดอลลาร์หลังเธอสิ้นชีวิตในปี 1992ไม่เพียงแค่ทรัพย์สินที่เป็นเงินทองเท่านั้น แต่เจ้ากุนเธอร์ที่ 4 ยังมีที่ดินในบาร์ฮามาส อิตาลี และเยอรมนีด้วย และที่น่าอิจฉายิ่งไปกว่านั้น คือคฤหาสน์ของมันยังมีสระว่ายน้ำ กับสาวในชุดบิกีนีรายล้อมด้วย

เขียนโดย NanGuri

10 ขนมอันตราย

10 ขนมอันตราย---10 ขนมอันตราย ---ตรายจากอาหารขบเคี้ยว ข้อมูลจากการสำรวจ ของราชพฤกษ์โพล คณะสาธารณะสุขศาสตร์ มหาวิทยาลัยมหิดล ซึ่งเก็บตัวอย่างจากขนมหลายประเภท จากโรงเรียนอนุบาลและประถมศึกษา จำนวน 40 โรงเรียน ในพื้นที่17 เขตของกรุงเทพมหานคร พบว่าภัยร้ายที่แฝงอยู่ในขนมเด็ก โดยเฉพาะสารตะกั่วซึ่งเป็นพิษต่อร่างกาย ขณะเดียวกันก็ยังพบสารอันตรายอื่นๆ โดยเฉพาะเกลือโซเดียมในปริมาณมากน้อยต่างกันไป ซึ่งหากบริโภค มากจนตกค้างสะสมในร่างกาย อาจมีผลให้เส้นเลือดในสมองโป่งพองได้ 10 อันดับขนมขบเคี้ยวประเภทข้าว แป้ง ที่พบปริมาณโซเดียมสูงสุดดังนี้ 1. ข้าวเกรียบปลาหมึก ตราอาริงาโตป้ง 2. ขนมทอดกรอบตราปูไทย ซองส้มเข้มป้ง 3. ข้าวเกรียบทอด ตราเอสบี รสพริกหยวกี่ 4. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราฮานามิ รสเม็กซิกันชิลลี่ษ 5. แป้งมันฝรั่งทอดกรอบ ตราโรลเลอร์ โคสเตอร์ รสหัวหอมทรงเครื่อง 6. แป้งข้าวโพดอบกรอบ ตราโจโต้ รสปลาหมึก 7. ข้าวเกรียบกุ้ง ตราคาลบี้ รสต้มยำรสแซบ 8. ข้าวเกรียบปลา ตรามโนห์รา 9. ข้าวเกรียบกุ้ง ตรามโนห์รา 10. ข้าวเกรียบรสมะเขือเทศ

เขียนโดย NanGuri